Menu SideLook

ทูนสำรับระดับคิ้ว
            เหลียงหงเป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียง ใจคอเด็ดเดียว มีอุดมคติ พวกเศรษฐีทั้งหลายต่างอยากได้ไว้เป็น "เขยศรีขี่มังกร" กันทั้งนั้น
ยังมีลูกสาวเศรษฐีคนหนึ่งรูปชั่วตัวดำแต่น้ำใจงาม เธอบอกพ่อว่า ถ้าพ้นจาก
            เหลียงหงแล้ว เธอก็จะขออยู่คนเดียวไปจนตาย
            เหลียงหงรู้สึกประทับใจในคำกล่าวของเธอมาก เขาจึงปฏิเสธธิดาสาวสวยของเศรษฐีคนอื่น ๆ จนหมดสิ้น ตกลงอยู่กินกับเธอ
แต่แต่งงานกันแล้วเจ็ดวัน เหลียงหงก็หาได้สนใจไยดีต่อนางไม่ นางสังเกตดูจนรู้ใจ จึงได้เปลื้องเสื้อผ้าอันเป็นแพรพรรณออก เปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาสามัญลงมือทำงานบ้านเองทุกอย่างเยี่ยงหญิงชาวบ้านทั่วไป นั่นแหละจึงเป็นที่พอใจของเหลี่ยงหง
            ต่อมาทั้งสองก็พากันย้ายออกจากเมืองไปอยู่อย่างสันโดษในป่าเขาสามีทำนา ภรรยาทอผ้า มีเวลาว่างก็ตีขิมแต่งกลอน เฝ้าทะนุทะถนอมน้ำใจกันเป็นอันดี
            ครั้งหนึ่งเหลียงหง เข้าไปธุระในเมืองลกเอี๋ยง เห็นความเหลวแหลกของการปกครอง จึงเขียนกลอนแสดงไว้ให้เป็นอุทาหรณ์
ความทราบถึงฮ่องเต้ ก็มีรับสั่งให้ประกาศจับ เหลียงหงและภรรยาจึงเปลี่ยนชื่อแซ่พากันหลบหนีไปอยู่เมืองอู๋สมัครเป็นคนงานตำข้าวของบ้านเศรษฐี ป๋อทง
            ทุกวัน เมื่อเหลียงหงกลับถึงบ้านพักคนงาน ภรรยาของเขาอยู่ทางบ้านก็จะจัดเตรียมอาหารไว้ให้พร้อม ใส่ถาด จัดสำรับยกมารับรองสามีด้วยความเคารพรัก เศรษฐีป๋อทงเห็นนางยกย่องสามี "ทูนสำรับระดับคิ้ว" เช่นนี้จึงพูดว่า
            "บุรุษใด หากได้รับความเคารพรักจากภรรยาได้ถึงเพียงนี้ บุรุษนั้นย่อมเหนือกว่าบุคคลธรรมดา"
เศรษฐีจึงเชิญให้คนทั้งสอง ขึ้นไปอยู่เสียด้วยกันบนเรือนใหญ่