พ่อเฒ่าใต้แสงจันทร์
สมัยราชวงค์ถัง
มีชายคนหนึ่งชื่อ อุ่ยกู้
ครั้งหนึ่งเขาเดินทางมาที่เมืองช่ง
และเข้าพักแรมในโรงเตี้ยม
คืนวันหนึ่งเขามองออกไปทางหน้าต่างเห็นพ่อเฒ่าคนหนึ่งยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ในสวน
ตรวจหาข้อความอะไรจากหนังสือเล่มใหญ่หนาเตอะในมือ
โดยอาศัยแสงสว่างจากดวงจันทร์วันเพ็ญ
อยู่กู้จึงเข้าไปถามว่า
"หนังสืออะไรหรือ พ่อเฒ่า"
"บัญชีบุพเพสันนิวาสของชายหญิง"
พ่อเฒ่าตอบ
"แล้วด้ายแดงในย่ามของพ่อเฒ่าล่ะ"
อุ่ยกู้ถามอีก
พ่อเฒ่าจึงอธิบายว่า
"เป็นด้ายสำหรับผูกข้อเท้าของชายหญิง
แม้ทั้งสองจะเป็นศัตรูหรืออยู่ห่างไกลกันแสนไกล
เมื่อข้าผูกด้ายแดงนี้ให้แล้วทั้งสองก็จะต้องมาครองคู่กัน"
อุ่ยกู้และพ่อเฒ่าพากันเดินเข้ามาในย่านค้าข้าว
ก็เห็นหญิงชราตาบอดคนหนึ่งอุ้มเด็กหญิงอายุประมาณ
3 ขวบเดินผ่านมา
พ่อเฒ่าจึงพูดกับอุ่ยกู้ว่า
"เด็กคนนี้แหละต่อไปจะเป็นภรรยาของเจ้า"
ว่าแล้วพ่อเฒ่าก็หายวับไป
อุ่ยกู้โกรธมาก
จึงสั่งให้ลูกน้องฆ่าเด็กหญิงคนนั้นเสีย
ลูกน้องของอุ่ยกู้หลับตาเงื้อมีดแทงไปตามนายสั่งแล้วรับวิ่งหนีไป
เรื่องเงียบหายไป 14 ปี
ต่อมาอุ่ยกู้ก็แต่งง่านกับบุตรีของท่านผู้ตรวจราชการหวังไท่
นางผู้นั้นมีรูปโฉมงดงามยิ่งนัก
แต่น่าเสียดายที่หว่างคิ้วมีรอยแผลเป็น
อุ่ยกู้มารู้ภายหลังว่านางคือเด็กหญิงที่เขาสั่งให้ลูกน้องไปฆ่านั่นเองเมื่อเป็นคู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกันได้
เพราะนางเพียงแต่ถูกมีดเฉี่ยวหว่างคิ้วไปเท่านั้น
จากนิทานเรื่องนี้
ชาวจีนจึงเรียกพ่อสื่อแม่สื่อว่า
"พ่อเฒ่าใต้แสงจันทร์"