สินค้าวิเศษประมาณค่าบ่มิได้
ในปลายสมัยจั้นกั๋วประมาณ 2,200
ปีก่อน
เป็นยุดสงครามระหว่างขุนศึก
ที่ตำบลหยังตี๋
เมืองฉินซึ่งปัจจุบันคืออำเภออวี่
มณฑลเหอหนานนั้นยังมีพ่อค้าคนหนึ่งมีนามว่า
หลี่ว์ปู้อุ่ย
ครั้งหนึ่งเมืองเขาเดินทางมาค้าขายที่เมืองหันตัน
นครหลวงของเมืองเจ้าก็รู้ข่าวว่า
เจ้าชายอี้เหยินซึ่งเป็นหลานของพระเจ้าฉินเจาเชียงอ๋วงถูกส่งมาเป็นตัวประกันสันติภาพอยู่ที่เมืองนี้
กำลังตกอยู่ในฐานะยากลำบากเสมือนคนสิ้นไร้ไม้ตอก
และถูกกักบริเวณอยู่หอฉงไถ
เขาจึงรำพึงว่า
"เป็นสินค้าที่หากำไรได้อย่างวิเศษ"
หลี่ว์ปู้อุ่ยจึงนำความคิดนี้ไปปรึกษาพ่อที่บ้านโดยถามว่า
"ผลกำไรจากการทำนานั้นได้เท่าไหร่"
"สิบเท่า" พ่อตอบ
"แล้วการค้าขายอัญมณีเล่า
ได้เท่าไหร่"
"ร้อยเท่า"
"ถ้าเช่นนั้นการสนับสนุนให้ใครได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินเล่า
จะได้เท่าไหร่"
พ่อของเขาหัวเราะแล้วตอบว่า
"ถ้าทำเข่นนั้นได้
ผลกำไรก็จะเป็นพันเป็นหมื่นเท่าที่เดียว"
เมื่อได้ฟังดังนั้นหลี่ว์ปู้อุ่ย
จึงนำเงินไปติดสินบนกงซุนเฉียงขุนนางของเมืองเจ้าซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวอจ้าชายอี้เหยิน
เพื่อขอให้เขาช่วยแนะนำให้รู้จักกับเจ้าชายอี้เหยินด้วย
ครั้นรู้จักกันแล้ว
พ่อค้าหลี่ว์ปุ้ยอุ่ยก็แอบปรึกษากับเจ้าอี้เหยินว่าจะนำเงินไปให้รัชทายาทอานกั๋วของพระเจ้าฉินเจาเชียงอ๋องและสนมคนโปรดของรัชทายาทเพื่อให้ช่วยหาทางให้เจ้าชายอี้เหยินกลับคืนสู่บ้านเมืองฉินของพระองค์
เจ้าชายอี้เหยินแสนยินดีนัก
ต่อมาไม่นานด้วยการวางแผนของรัชทายาทอานกั๋วและสนมเอกหัวหยัง
เจ้าชายอี้เหยินก็ได้คืนกลับมาตุภูมิ
ทั้งสนมเอกหัวหยังยังรับเจ้าชายเอาไว้เป็นบุตรบุญธรรมอีกด้วย
เมื่อพระเจ้าฉินเจาเซียงอ๋วงสวรรคตแล้ว
รัชทายาทอานกั๋วก็ขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่าพระเจ้าพระเซี่ยวเหวินอ๋วง
และให้เจ้าชายอี้เหยินเปลี่ยนชื่อเสียใหม่ว่า
จื่อฉู่
ครั้นพระเจ้าเซี่ยวเหวินอ๋วงสิ้นพระชนม์
เจ้าชายอี้เหยินหรือ
จื่อฉู่ก็ขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินเฉลิมพระนามว่าพระเจ้าฉินจวงเซียงอ๋วง
และได้แต่งตั้งให้พ่อค้าหลี่ว์ปู้อุ่ยเป็นมหาอำมาตย์มีราชศักดิ์ถึง
เหวินซิ่นโหว
เป็นตำแห่นงเจ้าเมือง
สินค้าพิเศษได้นำผลกำไรมาให้พ่อค้าหลี่ว์ปู้อุ่ยอย่างมหาศาลจนประมาณค่ามิได้
ดังนี้