พญามังกร
แม่น้ำจิ้งไหลไปบรรจบกับแม่น้ำไหว
และแม่น้ำไหวไหลไปบรรจบกับแม่น้ำเหลือง
ซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ของประเทศจีนแม่น้ำแต่ละสายมีพญามังกรเป็นผู้ปกครองและพญามังกรเหล่านี้อาศัยอยู่ในวังที่สวยงามลึกลงไปใต้พื้นน้ำ
พญามังกรปกครองปลาทั้งใหญ่น้อยตลอดจนฝูงเป็ดและห่านที่ว่ายอยู่บนพื้นน้ำ
พญามังกรที่ปกครองแม่น้ำจิ้งมีหน้าที่รับผิดชอบสำหรับจะให้ผนตกในดินแดนส่วนนั้นของประเทศจีน
เวลาที่พญามังกรของแม่น้ำจิ้งได้รับเทวบัญชาจากเง็กเซียนฮ่องเต้ให้ทำฝนตก
พญามังกรก็เอาเสื้อผ้าสำหรับให้ฝนตกสวม
และสั่งให้ผีที่ควบคุมฟ้าทำฟ้าผ่าและฟ้าร้องไปด้วย
แล้วพญามังกรก็เหาะไปข้างหลังก้อนเมฆเพื่อไม่ให้ใครเห็น
แล้วทำให้ฝนตกลงมาบนแผ่นดิน
ครั้งหนึ่งหลายปีมาแล้ว
พญามังกรคนใหม่เพิ่งจะได้เป็นผู้ปกครองแม่น้ำจิ้ง
พญามังกรนี้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
และรู้สึกโกรธเคืองมากเมื่อได้ทราบว่า
ปลาทั่งใหญ่น้อยที่เป็นพลเมืองของพญามังกรถูกพวกคนหาปลาจับ
ไม่ว่าจะไปทางไหน
พวกคนหาปลาก็คอยอยู่
แม้ว่าบางครั้งฝูงปลากจะพากันว่ายทวนน้ำ
มันก็พบพวกคนหาปลาที่นั่น
ในที่สุดพญามังกรก็ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ในเมืองจางอันซึ่งเป็นนครหลวงของประเทศจีนอยู่ใกล้บริเวณแม่น้ำจิ้ง
มีหมอดูคนหนึ่งอาศัยอยู่
หมอดูคนนี้สามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ
ดังนั้นพวกคนหาปลาจึงไปหาเขาและเอาเหรียญเงินให้หมดดูและขอให้เขาบอกที่
ๆ
จะมีปลามากที่สุดในวันรุ่งขึ้น
"อยู่ทางทิศตะวันตกของต้นสนใหญ่"
หมอดูบอก หรือบางครั้งก็บอกว่า
"อยู่ใต้หิน ห่างจากที่ ๆ
แม่น้ำจิ้งไหลไปบรรจบกับแม่น้ำห้าไมล์"
และฝูงปลาก็อยู่ที่นั่นตามคำที่หมอดูบอกจริง
ๆ
คราวนี้พญามังกรคิดหาอุบายจะหลอกหมอดู
ถ้าหากพญามังกรสามารถหลอกให้หมอดูทายอะไรอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นและสิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง
ๆ
ก็จะไม่มีใครเชื่อเขาอีกพวกคนหาปลาก็จะไม่มาหาเขาอีก
หรือเอาเงินมาให้เป็นค่าตอบแทนที่เขาทายว่าปลาอยู่ที่ไหน
ดังนั้นพญามังกรจึงปลอมตัวเป็นคนไปที่บ้านหมอดูที่เมืองจางอัน
"ท่านสามารถจะบอกฉันได้ไหมว่า
คราวต่อไปฝนจะตกเมื่อไร"
พญามังกรถามหมอดู
"และฝนจะตกกี่นิ้ว"
หมอดูมองพญามังกรและหัวเราะ
เขาสามารถจะมองได้ว่าคนที่พูดกับเขาเป็นพญามังกรปลอมตัวมา
"ท่านควรจะรู้เรื่องฝนตกได้ดีกว่าฉันเสียอีก"
หมอดูพูด
"แต่ถ้าท่านอยากให้ฉันบอกฉันจะบอกท่าน
พรุ่งนี้เช้าฝนจะตกตั้งแต่สิบนาฬิกาสิบห้านาทีและจะตกเรื่อยไปจนถึงเที่ยง
ฝนจะตกเศษหนึ่งส่วนสี่นิ้วในเมืองจางอันและเกือบเศษสามส่วนสี่นิ้ว
ในทุ่งนาริมแม่น้ำจิ้ง"
คำทำนายของหมอดูทำให้พญามังกรรู้สึกพอใจ
พญามังกรทราบว่า เขาเป็นคน ๆ
เดียวที่สามารถจะบันดาลให้ฝนตกได้
สิ่งที่ต้องทำเวลานี้คือจะต้องไม่ให้ฝนตกตามเวลาที่หมอดูทำนายไว้
พญามังกรจึงเรียกทุก ๆ
คนให้มาฟังคำทำนายของหมอดู
แล้วพญามังกรก็กลับไปที่วังในแม่น้ำด้วยความชื่นชมยินดี
ต่อมาอีกสองสามชั่วโมงก็มีเทวบัญชามาจากสวรรค์
พญามังกรแต่งกายอย่างสวยงาม
เพื่อจะต้อนรับฑูตที่นำเทวโองการบัญชามา
แต่เมื่อพญามังกรได้อ่านพระราชสาส์นจากเง็กเซียนฮ่องเต้
พญามังกรก็ตกใจหน้าซีด
"หมู่นี้มีฝนตกไม่พอในเมืองจางอัน"
จดหมายนี้มีข้อความดังนี้
"ขอให้ท่านบันดาลให้ฝนตกพรุ่งนี้ตั้งแต่สิบนาฬิกาสิบห้านาทีไปจนถึงเที่ยงตรง
และผนจะต้องตกสูงเศษหนึ่งส่วนสี่นิ้วในเมืองจางอันและเกือบเศษสามส่วนสี่นิ้วตามริมแม่น้ำจิ้ง"
เมื่อฑูตของเง็กเซียนฮ่องเต้กลับไปแล้ว
พญามังกรได้หันไปถามอรรคมหาเสนาบดีว่า
"ฉันจะทำอย่างไรดี"
"ข้าพเจ้าไม่เห็นมีอะไรที่พระองค์จะต้องวิตก"
อรรคมหาเสนาบดีตอบ
สวรรค์ต้องการให้ฝนตก
แต่พระองค์สามารถทำให้ฝนตกก่อนเวลาหรือช้ากว่าเวลาที่
กำหนดไว้หรือจะให้ตกหนักมากกว่านั้นก็ได้
และถ้าพวกชาวสวรรค์สังเกตเห็นว่ามีอะไรผิดแปลกไปข้าพเจ้าก็ไม่เห็นว่าพระองค์จะต้องเดือนร้อน"
ดังนั้นพญามังกร
จึงให้มีฝนตกตั้งแต่รุ่งสว่างจนถึงสามโมงเช้าและฝนตกหนักในเมืองจางอันมากกว่าที่บริเวณแม่น้ำจิ้ง
แล้วพญามังกรก็กลับไปหาหมอดู
"เห็นไหมล่ะ
ว่าท่านทำนายผิดคราวนี้จะไม่มีใครเชื่อท่านอีก"
แต่หมอดูมองพญามังกรอย่างเศร้าสลด
"ข้าพเจ้าไม่ได้ทายผิด
ท่านพญามังกรผู้โง่เขล่า
ท่านได้ขัดรับสั่งของเง็กเซียนฮ่องเต้
เง็กเซียนฮ่องเต้มีบัญชาให้ฝนตกตามกำหนดที่ข้าพเจ้าทำนายไว้
และท่านให้ฝนตกก่อนเวลา
และตกในที่ ๆ
เง็กเซียนไม่ได้สั่งให้ตกในเมืองจางอันนี้เรามีฝนตกมากกว่าที่เราต้องการ
ส่วนไรนาข้างนอกฝนแล้ง
คราวนี้ข้าพเจ้ากลัวว่าท่านเห็นจะไม่มีหวังเสียแล้ว"
"ไม่มีหวัง" พญามังกรทวนคำ
"เพราะเหตุไร?"
จะมีอะไรเกิดขึ้น ? "
"ท่านจะได้รับโทษถึงตายเพราะขัดเทวบัญชาของเง็กเซียนฮ่องเต้
คืนนี้เวลาเทียงคืนอรรคมหาเสนาบดีของจักรพรรดิแห่งประเทศจีนจะถูกเรียกขึ้นไปบนสวรรค์
และเง็กเซียนฮ่องเต้จะให้เขาตัดศรีษะของท่านทันที"
พญามังกรมีความทุกข์มาก
จึงรีบไปหาจักรพรรดิแห่งประเทศจีน
จักรพรรดิประทับอยู่พระราชวังที่กลางเมืองจางอัน
แล้วพญามังกรก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้จักรพรรดิฟัง
จักรพรรดิก็รับรองว่าจะช่วย
พญามังกรท่านจะเชิญอรรคมหาเสนาบดีมาเล่นหมากรุกับท่านในคืนนั้นและถ่วงเวลาไว้จนถึงเที่ยงคืน
เพื่ออรรคมหาเสนาบดีจะได้ไม่มีเวลาขึ้นไปบนสวรรค์และตัดศรีษะของพญามังกรตามบัญชาของเง็กเซียนฮ่องเต้
แต่เวลาในแผ่นดินโลกกับเวลาในสวรรค์แตกต่างกันอย่างมากมาย
ในสวรรค์เราสามารถจะทำอะไร ๆ
ให้สำเร็จได้ในชั่วพริบตาเดียว
พอถึงเวลาเที่ยงคืนตรงอรรคมหาเสนาบดีทำหมากรุกตกลงบนพื้น
และขณะที่ก้มลงเก็บหมากรุกอรรคมหาเสนาบดีได้หลับตา
ในชั่วครู่เดียวนั้นเอง
วิญญาของอรรคมหาเสนาบดีได้ขึ้นไปบนสวรรค์
และตัดศรีษะของพญามังกรตามบัญชาของเง็กเซียนฮ่องเต้แล้วกลับมายังแผ่นดินโลกอีก
คืนต่อมาและทุก ๆ คืนหลังจาก
ปีศาจพญามังกรได้กลับมาที่พระราชวังเพื่อจะหลอดหลอนจักรพรรดิ
ปีศาจพญามังกรเอาศรีษะหนีบไว้ใต้แขนและยืนอยู่ข้างที่บรรทมของจักรพรรดิและคร่ำครวญว่า
"ท่านสัญญาว่าจะช่วยชีวิตข้าพเจ้า
ท่านสัญญาว่าจะช่วยชีวิตข้าพเจ้า"
"ข้าพเจ้าได้ทำทุกสิ่งเพื่อช่วยท่าน"
จักรพรรดิตอบ
จักรพรรดิรู้สึกเสียพระทัยที่พญามังกรถูกฆ่าตาย
แต่รู้สึกรำคาญที่ต้องตื่นบรรทมทุกคืน
เพราะปีศาจพญามังกรมารบกวน
"ข้าพเจ้าเล่นหมากรุกกับอรรคมหาเสนาบดีตลอดคืน
และไม่ทราบว่าเขามีเวลาไปฆ่าท่านได้อย่างไร"
"ข้าพเจ้าไม่เชื่อ"
พญามังกรทูลตอบ
"อย่างไรก็ตามอรรคมหาเสนาบดีของท่านเป็นคนตัดศีรษะข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าได้ทูกเง็กเซียนฮ่องเต้ว่าท่านเป็นผู้รับผิดชอบในความตายของข้าพเจ้า"
ในที่สุดจักรพรรดิแห่งประเทศจีนจึงถูกเรียกขึ้นไปบนสวรรค์
ท่านได้ชี้แจงว่า
ท่านพยายามจะช่วยชีวิตของพญามังกร
และทูลขอให้เง็กเซียนฮ่องเต้นำศรีษะพญามังกร
ไปต่อเข้ากับตัวของพญามังกรอีกและได้ทูลเง็กเซียนฮ่องเต้ว่า
ที่พญามังกรบังอาจขัดรับสั่งก็เพราะต้องการจะช่วยปลาให้รอดพ้นจากการถูกคนหาปลาจับ
"เราไม่สามารถจะทำตามคำขอร้องของท่าน"
เง็กเซียนฮ่องเต้รับสั่ง
"แต่เราจะให้ร่างกายใหม่แก่พญามังกร
และส่งเขาไปอยู่ในดินแดนส่วนอื่นของประเทศจีน
ในสถานที่นั้นเขาจะไม่ถูกคนหาปลาหรือหมอดูรบกวนอีกเลย
จักรพรรดิแห่งประเทศจีนก็พอพระทัย
และกลับไปที่พระราชวังในแผ่นดิน
ตั้งแต่นั้นมาปีศาจพญามังกรก็ไม่มารบกวนจักรพรรดิอีกเลย