ไม้เท้าดีกว่าลูกเลว
พ่อเฒ่าคนหนึ่งมีทรัพย์สมบัติมาก
มีลูกชายอยู่ 4 คน
ทุกคนมีเมียแล้วและก็อยู่ในบ้านเดียวกับพ่อเฒ่า
แกพิจารณาว่าลูกชายทั้ง 4
คนก็โตจนมีครอบครัวแล้ว
เรายังไม่ได้แบ่งมรดกให้ในสมัยเลย
จึงจัดการแบ่งทรัพย์ทั้งหมดออกเป็น
4 ส่วนเท่า ๆ กัน
แล้วก็มอบให้ลูกชายทั้ง 4 คนจนหมด
ตัวแกเองแก่แล้วขออาศัยกินไปจนกว่าจะตายก็พอใจแล้ว
ต่อมาไม่นาน ลูกชายทั้ง 4
คนถูกลูกสะใภ้ยุแหย่จึงพร้อมใจกันทั้ง
4 คนขับไล่พ่อเฒ่าออกจากบ้านไป
พ่อเฒ่าไร้ทรัพย์ก็จำต้องก้มหน้าออกจากบ้านของตัวเองด้วยความเสียใจ
ฝ่ายพ่อเฒ่าชรามากแล้วจะไปทำงานทำการอะไรก็ไม่ไหวแก่ก็เที่ยวขอข้าวชาวบ้านเขากินไปเรื่อย
นานเข้าเสื้อผ้าชุดเดียวของแก่ก็ขาดและสกปรก
แกได้ระเหเร่ร่อนไปจนถึงสำนักของพระพุทธเจ้าวันหนึ่งจนได้
"พราหมณ์ ทำไมท่านจึงมอมแมนนัก
ผ้านุงผ้าห่มก็ปอนเต็มที่ ?"
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ลูกชาย 4
คนของกระผมมักคบคิดกันกับเมียขับไล่กระผมให้ออกจากบ้าน
ทรัพย์สมบัติก็ไม่มีติดตัวต้องของเขากินไปวัน
ๆ
จึงต้องอยู่ในสภาพปอนเช่นนี้แหละขอรับท่าน"
"เอาอย่างนี้เถอะพ่อเฒ่า
ท่านจงจำภาษิตที่เราจะแนะให้
เมื่อท่านจำได้ขึ้นใจแล้ว
จงไปพูดขึ้นในท่ามกลางสภาสาธารณต่อหน้าบุตรทั้ง
4 ของท่าน
ข้อความในภาษิตนั้นมีว่า
"เราชื่นชมและหวังความเจิรญรุ่งเรืองบุตรทั้ง
4 เหล่าใด
บุตรเหล่านั้นได้คบคิดกับภรรยรุมด่าว่าเราเหมือนหมารุมเห่าหมู
ทั้งที่เขาเหล่านั้นยังเรียกเราว่าพ่อ
ๆ อยู่
เขาทิ้งเราผู้แก่ชราเหมือนม้าแก่ที่เจ้าของไม่ต้องการ
ได้ยินว่าลูกพาลเกเร
และอกกตัญญู
เลวกว่าไม้เท้าเพราะไม้เท้าใช้ป้องกัน
วัว ควาย หรือหมาดุ ๆ ก็ได้
ไปในที่มืดใช้นำทางก็ได้
ในน้ำลึกใช้หยั่งดูก็ได้
แม้แต่พลาดพลั้งก็ยังสามารถใช้ยันให้ทรงตัวอยู่ได้
เมื่อพ่อเฒ่าจำภาษิตและท่องได้จนขึ้นใจดีแล้ว
วันหนึ่งเป็นวันประชุมสภาสาธารณะ
ซึ่งลูกชายทั้ง 4 ก็มาประชุมด้วย
พ่อเฒ่าได้ กล่าว
ภาษิตขึ้นในท่ามกลางประชุมอย่างไม่สะทกสะท้าน
และถูกต้องตามที่เรียนไปจากพระพุทธเจ้าทุกถ้อยคำ
พอผู้เฒ่ากล่าวจบลูกชายของแกทั้ง
4
คนต่างก็รีบเข้ามาจูงมือพ่อออกไปจากที่ประชุมกลับบ้าน
ครั้นถึงบ้านก็ให้อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณเป็นการใหญ่
แล้วต่างก็นำเอาผ้านุ่งผ้าห่มใหม่คนละคู่รวม
4 คู่มาให้พ่อเฒ่าเปลี่ยน
พ่อเฒ่าก็มีความสุขแต่วันนั้นสืบมา
พราหมณ์เฒ่า
ได้ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้านี่แนะอบายให้
จนแกมีความสุขอีกครั้งหนึ่ง
แกจึงเอาผ้าที่ลูกชายให้หนึ่งใน
4 คู่
นำไปถวายพระพุทธเจ้าเสียคู่หนึ่ง
แล้วของปฏิญาณ ตนกับ
พระรัตนตรัยและแสดงตนเป็นอุบาสกตลอดชีวิตแต่นั้นมา
พระสูตรนี้ก็คงจะเป็นอุทาหรณ์ให้บรรดาลูกอกตัญญูทั้งหลายได้กลับใจ
ทำตัวให้เป็นคนดีมีค่ากว่าไม้เท่าบ้านเป็นแน่