คนแคระเจ้าเล่ห์
เมื่อแรกที่พระเจ้าสร้างโลก
ดินแดนที่เป็นประเทศเยอรมันนี่
ในเวลานี้เป็นถิ่นที่รกร้างว่างเปล่า
ไม่มีคนทำไรไถนา
และมีมังกรที่น่ากลัวอยู่ในประเทศนั้น
แล้วต่อมามียักษ์ที่ต่อสู้กับมังกรและฆ่าสัตว์ร้ายตาย
และพระเจ้าทรงสร้างคนแคระด้วย
พวกคนแคระสร้างบ้านอยู่ในโพรงใต้เนินเขา
และเป็นพวกที่มีฝีมือในการตีเหล็กและโลหะต่าง
ๆ
พวกคนแคระฉลาดและมีเล่ห์เหลี่ยม
และสามารถจะหายตัวได้เวลาที่ต้องการ
พวกเหล่านี้มีเสื้อคลุมและหมวกวิเศษ
ที่แรกพวกยักษ์และคนแคระอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
แต่ต่อมาอีกไม่ช้าพวกยักษ์ได้กดขี่ข่มเหงพวกคนแคระ
และขโมยทรัพย์สมบัติของคนแคระ
แล้วมีพวกวีรบุรุษมาในแผ่นดินโลก
พวกเหล่านี้ช่วยคนแคระให้พ้นจากการกดขี่ข่มเหงของพวกยักษ์
พวกวีรบุรุษมีร่างกายแข็งแรงและจิตใจกล้าหาญ
และเขาคิดถึงแต่เกียรติยศและความมีชื่อเสียงในการทำสงคราม
พวกเหล่านี้ต่อสู้กับพวกยักษ์จนได้ชัยชนะพวกคนแคระจึงไม่ถูกพวกยักษ์กดขี่ข่มเหงอีก
แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไปพวกวีรบุรุษก็หายไปจากโลก
เหลือแต่พวกคนแคระอยู่ในโพรงใต้เนินเขา
เวลานี้มนุษย์ทำการเพาะปลูก
เขาสร้างหมู่บ้านและเมือง
ทำถนนและสร้างสะพานเข้ามาชนบท
และพวกคนแคระก็ยังอาศัยอยู่ในโพรงใต้เนินเขาและเฝ้ารักษาทรัพย์สมบัติของเขา
คนแคระหลายพันคนอาศัยอยู่ในถ้ำบริเวณภูเขาฮ้าตส์
พวกคนแคระทำความลำบากเดือดร้อนให้พวกชาวนา
เพราะในฤดูเก็บเกี่ยวพวกคนแคระมักจะเข้าไปขโมยข้าวโพดในไร่
ไม่มีใครมองเห็นพวกเหล่านี้เพราะเขาสวมหมวกวิเศษที่ทำให้หายตัวได้
ชาวนาคนหนึ่งถูก
ขโมยข้าวโพดไปมากมาย
จนเขาตั้งใจว่าจะต้องจับพวกคนแคระที่แอบมาขโมยข้าวโพดของเขา
ชาวนาเอาเชือกเส้นหนึ่งกั้นรอบ
ๆ
ไร่ข้าวโพดและขึงเชือกนั้นบนหลักไม้สูงจากพื้นดินประมาณสามฟุต
แล้วเขาก็เฝ้าดูอยู่
ต่อมาอีกสักครู่เขาก็เห็นพวกผู้ชายร่างเล็กหมู่หนึ่งกระโดดโลดเต้นอยู่ในน้ำและส่งเสียงร้องด้วยความทุกข์
เมื่อพวกคนแคระคลานเข้าไปใต้เชือก
เชือกก็พานหมวกวิเศษของเขาหลุดจากศรีษะ
และพวกคนแคระก็หายตัวไม่ได้อีกชาวนาจับคนแคระได้หลายคน
และพวกคนแคระได้สัญญาว่าถ้าชาวนาปล่อยเขาไป
เขาจะให้ทองคำถังหนึ่งแก่ชาวนาเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนที่เขาได้เอาข้าวโพดไป
พวกคนแคระบอกชาวนาว่าเขาต้องมาเอาทองที่ไร่ข้าวโพดเวลารุ่งอรุณ
ชาวนาก็ยอมตกลง
เขาถูมือด้วยความพอใจเมื่อคิดว่าอีกไม่ช้าเขาจะได้เป็นคนร่ำรวย
คืนนั้นที่โรงแรมในหมู่บ้านชาวนาดื่มเบียร์กับพวกเพื่อน
ๆ
และคุยอวดเรื่องที่เขาได้โชคลาภจากพวกคนแคระ
แต่เพื่อนของเขาคนหนึ่งที่นั่งข้าง
ๆ
เตือนให้ระมัดระวังอุบายเล่ห์เหลี่ยมของคนแคระ
"พวกคนแคระบอกท่านให้ไปที่ไร่ข้าวโพดเวลาไร
? " เพื่อนของชาวนาถาม
"เวลารุ่นอรุณ" ชาวนาตอบ
"และฉันจะไปที่นั่นเวลาแสงเงินแสงทองเริ่มฉายจับท้องฟ้า"
แต่เพื่อนของเขาสั่นศีรษะ
"ท่านควรจะไปก่อนแสงเงินแสงทองจับท้องฟ้า"
เขาเตือนแนะนำชาวนา
"ท่านควรจะไปถึงไร่ข้าวโพดเวลาเที่ยงคืน"
เพราะแท้ที่จริงนั้นเวลากลางวันเริ่มตอนนั้น
ชาวนาเชื่อคำแนะนำของเพื่อน
พอถึงเวลาเที่ยงคืนเขาก็ไปที่ไร่ข้าวโพด
และก็เป็นความจริงเขาพบพวกคนแคระเต้นรำอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์และร้องเพลงว่า
"ชาวนาที่โง่เขลาไม่รู้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นเวลาสองยาม"
แต่เมื่อพวกคนแคระเห็นชาวนายื่นอยู่ที่นั่นเขาก็เปลี่ยนเพลงที่ร้องทันที
และถึงแม้ว่าพวกคนแคระจะโกรธเพราะชาวนารู้เท่าทันอุบายของเขา
คนแคระก็รักษาสัญญาและเอาทองให้เขาถังหนึ่งจากห้องเก็บสมบัติของพวกคนแคระ
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้แล้วพวกคนแคระก็ยังเที่ยวปล้นสะดมภ์และขโมยของอยู่เรื่อย
ๆ
ในที่สุดก็มีหมายประกาศว่าพวกคนแคระจะต้องออกจากดินแดนส่วนนั้นในประเทศเยอรมันนี่ให้ไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในที่แห่งอื่น
ภายหลังที่ออกหมายประกาศนี้ไม่นานนัก
วันหนึ่งเพื่อนของชาวนากำลังทำงานอยู่ในที่ดิน
ของเขามีคนแคระร่างเล็ก
ดวงหน้าสีน้ำตาลและมีรอยย่นมาหาเขาและพูดว่า
"สวัสดี"
ฉันอยากจะจ้างท่านให้เอาของบรรทุกเกวียนข้ามแม่น้ำฉันจะให้ทองท่านเป็นค่าจ้าง
ท่านจะตกลงไหม
"ตกลง" ชายนั้นตอบ
"ถ้าเช่นนั้นให้ท่านไปที่เชิงเขาคืนนี้"
คนแคระพูด
คืนนั้นเพื่อนของชาวนาเอาม้าสี่ตัวเทียมรถและขับไปที่เชิงเขา
มีพวกคนแคระหลายคนรออยู่ที่นั้น
และช่วยกันเอาของหนัก ๆ
บรรทุกรถแต่ชาวนามองไม่เห็นว่าของที่พวกคนแคระเอาบรรทุกรถนั้นเป็นอะไรชายนั้นสงสัยว่าพวกคนแคระเอาอะไรบรรทุกรถของเขา
แต่เขาไม่ได้ถามอะไรพวกคนแคระ
เมื่อบรรทุกของจนหนักแล้วเขาก็เอาแสเฆี่ยนม้าและขับรถขึ้นภูเขา
และข้ามสะพานที่อยู่เหนือแม่น้ำไป
เขาขับรถกลับไปกลับมาเช่นนี้หลายเที่ยวจนกระทั่งม้าเหนื่อย
เมื่อเขาขับรถเข้าสะพานครั้งที่ยี่สิบคนแคระที่มาหาเขาในทุ่งนาได้พูดว่า
"เราขนของพอแล้ว"
ท่านทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เพื่อเป็นการตอบแทนเรา
จะให้ท่านเลือกเอา
ทองคำถังหนึ่ง
หรือจะเอาทองคำหนักเท่ากับสิ่งหนึ่ง
ๆ ที่ท่านบรรทุกไปในรถ
"ฉันจะเอาทองหนึ่งถัง"
ชายนั้นตอบอย่างร้อนรน
คนแคระก็ให้ทองชายนั้น
"ถ้าท่านเลือกเอาทองหนักเท่าของสิ่งหนึ่ง
ๆ ที่บรรทุกไปในรถก็จะดี"
คนแคระบอกเพื่อนชาวนา
"มองดูอะไรตรงหน้าท่านซิ"
ชายนั้นมองดูเห็นคนแคระเป็นฝูง
ๆ
เดินอยู่บนทุ่งนาทางแม่น้ำอีกฟากหนึ่ง
พวกเหล่านี้ได้ออกเดินทางจากถ้ำในภูเขาโดยไม่กลับมาอีกและชายนั้นก็ทราบว่าถ้าหากเขาได้เลือกเอาทองคำหนักเท่ากับคนแคระคนหนึ่ง
ๆ
เขาก็คงจะเป็นคนร่ำรวยที่สุดในประเทศเยอรมันนี่