เมล็ดผักกาดชุบชีวิต
สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่
ณ พระเชตวันกรุงสาวัตถี
ครั้งนั้นแลบุตรของนางกีสาโคตมีซึ่งกำลังน่ารักน่าเอ็นดูได้ตายลง
นางกีสาเสียใจแทบเป็นบ้า
เพราะนางมีลูกคนเดียว
นางได้อุ้มลูกน้อยผู้ไร้วิญญาณไปบ้านโน้นเรือนนี้
ขอให้ชาวบ้านช่วยรักษาลูกนางให้พื้นคืนมา
ชาวบ้านหลายคนก็มีความสงสารหัวอกของแม่
แต่ก็สุดที่ใคร ๆ จะช่วยนางได้
จึงแนะให้นางไปหาพระพุทธเจ้านางจึงอุ้มร่างของลูกน้อยผู้สิ้นลมไว้แนบอก
แล้วรับวิ่งไปยังสำนักพระเชตวัน
ซึ่งขณะนั้นพระพุทธเจ้ากำลังทรงแสดงธรรมอยู่
นางกีสาผู้มีหน้านองด้วยน้ำตา
ยื่นแขนทั้งสองที่รองรับร่างหนูน้อยไว้ไปทางพระพุทธเจ้า
พลางพูด้วยเสียงสั่นแกมสะอื้นว่า
"ท่านเจ้าขา
โปรดช่วยชุบชีวิตลูกน้อยของดิฉันให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยเถิดพระเจ้าข้า
"
"กีสาโคตมี
เธอจงไปหาเมล็ดพันธุ์
ผักกาดในบ้านที่ไม่มีคนเคยตายเลยมาสักหยิบมือ
แล้วเราจะประกอบยาชุบชีวิตลูกของเธอให้"
นางได้อุ้มลูกไว้แนบอกรีบ
วิ่งเข้าไปในหมู่บ้านถามหาเมล็ดพันธ์ผักกาด
แทบทุกเรือนก็บอกว่าเมล็ดผักกาดมีแต่พอถามถึงว่า
"ที่บ้านนี้เคยมีคนตายมาก่อนบ้างไหม?"
ทุกบ้านก็ตอบตรงกันว่า "เคย"
นางกีสารตระเวนหาตั้งแต่เช้าถึงเย็น
จนลูกเหม็นเน่าก็ไม่ได้เมล็ดผักกาดแม้แต่เมล็ดเดียว
จึงต้องกลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้าด้วยความผิดหวัง
พระพุทธเจ้าได้ทรงให้สตินางว่า
"กีสาเอ๋ย อนิจจตาธรรมนี้
มิใช่ธรรมเฉพาะบ้านมิใช่ธรรมเฉพาะนิคม
มิใช่ธรรมเฉพาะสกุลเดียว
แต่เป็นธรรมของโลกทั้งปวงพร้อมทั้งเทวโลก
ฯ"