Menu SideLook

ขวดแก้วสีเขียว
            แพ้ดดี้โอทูล บริดเจ็ด ภรรยาของเขาและลูก ๆ สามคนอาศัยอยู่ในบ้านนาเล็ก ๆ สีขาว แพ้ดดี้ เช่าบ้านนาและที่ดินจากเจ้าของที่ดินซึ่งมีใจแข็งกระด้างปราศจากความเมตตาปรานี่
            ที่แรกครอบครัวของเขามีความเป็นอยู่อย่างเรียบร้อย แล้วเขาก็โชคร้าย ไก่ที่เขาเลี้ยงไว้ตาย และข้าวโอ๊ตก็เสียหาย มีแต่วัวสีแดงเหลืออยู่ตัวเดียว เด็กสามคนต้องอดยากหิวโหย และแพ้ดดี้ทราบว่าเขาไม่มีเงินเสียค่าเช่านา เขากลัวว่าเจ้าของที่ดินจะขับไล่เขาไปจากบ้าน
            "เราจะทำอย่างไรดี" เขาถามภรรยา
            "เราต้องเอาวัวไปขายที่ตลาดเมืองค็อก" นางตอบ
            ดังนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นแพ้ดดี้จึงออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ เขาไล่ต้อนวัวไป และเดินข้ามเนินเขาไปที่เมืองค็อก พอถึงเวลาเที่ยงแพ้ดดี้ก็เดินไปถึงเนินเขาอยู่นอกเมืองค็อก เนินเขานั้นเป็นเนินเขาเล็ก ๆ มีรูปร่างกลม ๆ และมีหญ้าเขียวสดปกคลุมและแพ้ดดี้คิดในใจว่าเนินเขานี้เป็นที่ ๆ พวกนางฟ้าอาศัยอยู่เพราะแพ้ดดี้ทราบว่ายังมีนางฟ้าอีกมากมายที่อยู่ในไอแลนด์
            ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงทักอยู่ใกล้ ๆ ว่า "สวัสดี แพ้ดดี้โอทูล" แพ้ดดี้สะดุ้ง และมองเห็นชายร่างเล็กคนหนึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ชายนั้นสวมเสื้อสีเขียว สวมรองเท้าสีแดงปลายแหลม และหมวกสีดำทรงสูง
            "สวัสดี" แพ้ดดี้ตอบ พลางนึกสงสัยว่าชายนั้นรู้จักชื่อเขาได้อย่างไร
            "ท่านจะเอาวัวนั้นไปไหน"
            "จะเอาไปขายที่ตลาดเมืองค็อก"
            "ท่านจะขายวัวนั้นให้ฉันได้ไหม"
            "ท่านจะให้อะไรฉันสำหรับวัวตัวนี้"
            ชายร่างเล็กเอามือล้วงกระเป๋าหยิบขวดแก้วสีเขียวใบหนึ่งออกมา "ฉันจะเอาขวดนี้ให้ท่าน" เขาพูด
            แพ้ดดี้มองดูขวดแล้วก็หัวเราะเสียงดัง "ท่านคิดว่าฉันจะโง่ถึงกับจะยอมเอาวัวสีแดงของฉันแลกกับขวดแก้วสีเขียวของท่านรึ"
            ชายร่างเล็กทำหน้าบึ้ง "เอาขวดไปและเอาวัวมาให้ฉัน ท่านจะไม่เสียใจที่ได้เอาวัวของท่านแลกขวดของฉัน เมื่อท่านกลับถึงบ้านจงกวาดบ้านให้สะอาด หาผ้าสะอาด ๆ ปูโต๊ะ และวางขวดลงบนพื้นดิน และพูดว่าดังนี้ จงทำหน้าที่ที่ของเจ้า แล้วท่านจะได้เห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้น"
            แพ้ดดี้รู้สึกสนใจในถ้อยคำเหล่านี้จึงเอาวัวมอบให้ชายร่างเล็กและรับขวดมา
            "ลาก่อนแพ้ดดี้โอทูล คราวนี้ท่านเป็นคนรวยแล้ว" ชายร่างเล็กร้อง ขณะที่เดินลับไปหลังเนินเขา และต้อนวัวไปด้วย
            "ขอบคุณพระเจ้า คราวนี้เราไม่ต้องอดยากกันอีกแล้ว" แพ้ดดี้พูดเมื่อกลับถึงบ้าน
            "ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ ?" ภรรยาของเขาถาม "ขายวัวได้หรือยัง ? และนั่นขวดอะไรที่เธอเอาใส่ไว้ในกระเป๋า ?"
            "ขวดที่ฉันเอาวัวแลกมา" แพ้ดดี้ตอบพลางเอาขวดมาวางบนโต๊ะ
            ภรรยาของเขาพูดไม่ออก "เธอหมายความว่าเธอเอาวัวของเราและกับขวดแก้วบ้า ๆ นั่นรึ"
            แล้วแพ้ดดี้เล่าเรื่องที่เขาพบคนแคระให้นางฟัง และบริดเจ็ดก็นึกสงสัยว่า เรื่องที่สามีพูดเป็นจริงหรือไม่ นางจึงลุกขึ้นกวาดพื้นห้องและหาผ้าสะอาด ๆ มาปูโต๊ะตามที่สามีบอกให้ทำ
            แพ้ดดี้วางขวดลงบนพื้นดิน และพูดว่า "จงทำหน้าที่ของเจ้า" จากขวด ทันใดนั้นเขาก็เอาจานเงินจานทองมาวางบนโต๊ะและในจานเหล่านั้นมีอาหารท่อร่อยที่สุด แล้วคนแคระทั้งสองก็กลับเข้าไปในขวดตามเดิม
            แพ้ดดี้และบริเจ็ดมีความชื่นชมยินดีมาก เขาให้ลูกสามคนมากินอาหารที่โต๊ะและทุก ๆ คนไดรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย
            หลังจากนี้แพ้ดดี้ก็เอาจานเงิน จานทองไปขายได้เงินมากมายและโดยเหตุที่เขาได้จานเงินจานทองทุก ๆ วันเขาจึงมีเงินทองใช้สอยไม่ขาดมือ
            คราวนี้เจ้าของที่ดินสงสัยว่าแพ้ดดี้ร่ำรวยขึ้นมาได้อย่างไร วันหนึ่งเขาจึงมาเยี่ยมแพ้ดดี้ และรบเร้าให้แพ้ดดี้บอกความลับให้เขาทราบ ในที่สุดแพ้ดดี้ก็บอกความลับแก่เจ้าของที่ดิน ชายนั้นอยากได้ขวด และสัญญาว่าจะเอาเงินให้แพ้ดดี้เป็นจำนวนมากมายที่แรกแพ้ดดี้ปฏิเสธ แต่เมื่อเจ้าของที่ดินเพิ่มราคามากขึ้น เขาก็ยอมตกลงในที่สุด และเอาขวดให้เจ้าของที่ดินไป
            "เวลานี้เราก็มีเงินทองมากแล้ว" เขาคิด "เราจะร่ำรวยตลอดชีวิต"
            แต่แพ้ดดี้เข้าใจผิด ยิ่งนานวันเงินทองที่เขามีอยู่ก็ร่อยหรอลงทุกที่ และอีกไม่นานนักขาก็ต้องเอาวัวไปขายที่ตลาดเมืองค็อกอีกเมื่อเขาเดินไปถึงเนินเขาที่มีหญ้าเขียวสดตรงที่ ๆ เขาเคยพบคนแคระแพ้ดดี้ก็ต้องประหลาดใจ ที่ได้ยินเสียงแหลมที่เขาจำได้ที่ทักเขาอีก "แพ้ดดี้ โอทูล ฉันบอกท่านแล้วว่าท่านจะร่ำรวย"
            "จริงสิ ครั้งหนึ่งฉันร่ำรวย แต่เวลานี้ฉันยากจนอีกแล้วแพ้ดดี้ตอบอย่างเศร้าสลด
            แล้วคนแคระก็หยิบขวดแก้วสีเขียวอีกใบหนึ่งมาให้แพ้ดดี้และพูดว่า "ท่านทราบแล้วว่าท่านจะทำอะไรกับขวดนี้"
            แพ้ดดี้มีสีหน้าแจ่มใสขึ้น เขารีบรับขวดมาและกลับบ้าน
            "เรามีโชคดีอีก" บริเจ็ดร้องเมื่อเห็นขวดแก้วใบที่สอง นางรีบกวาดพื้นและเอาผ้าสะอาดมาปูโต๊ะ
            แพ้ดดี้วางขวดลงบนพื้นดิน และพูดว่า "จงทำหน้าที่ของเจ้า"
            แต่แล้วทั้งสองคนก็ต้องตกใจ กลัวเพราะมีชายรูปร่างล่ำสันแข็งแรงสองคนออกมาจากขวดและเอาไม้ตีเขาจนเจ็บปวดไปหมดทั้งตัว เมื่อสองคนถูกตีแล้ว แพ้ดดี้ก็คิดอุบายได้อย่างหนึ่งจึงเอาขวดนั้นไปที่บ้านเจ้าของที่ดิน เจ้าของที่ดินก็รับจะเอาขวดนั้นไว้อีก แพ้ดดี้เอาขวดวางบนโต๊ะ และมีชายสองคนออกมาตีเจ้าของที่ดินจนฟกซ้ำดำเขียวไปหมดทั้งตัว
            "ช่วยด้วย ช่วยด้วย" เจ้าของที่ดินร้อง "แพ้ดดี้ ช่วยบอกให้เขาเลิกตีฉันที่"
            "เขาจะไม่หยุดจนกว่าท่านจะเอาขวดใบเก่าคืนให้ฉัน"
            "เอาคืนไปสิ วางอยู่บนหิ้งนั่นแน่ะ" เจ้าของที่ดินตอบ
            แพ้ดดี้หยิบขวดแก้วสีเขียวใบแรกจากหิ้ง และเมื่อเขาได้ขวดแล้วชายร่างใหญ่สองคนที่ออกมาตีเจ้าของที่ดินก็กลับเข้าไปในขวด
ดังนั้นแพ้ดดี้จึงเป็นคนร่ำรวย และครอบครัวของเขาก็ไม่ขาดแคลนสิ่งใดอีก และมีอะไรเกิดขึ้นกับขวดสองใบนั้น?" ไม่มีใครทราบสักวันหนึ่งท่านอาจจะพบขวดสองใบนั้นก็ได้