กวางน้อย
ครั้งหนึ่งมีเด็กชายหญิงสองพี่น้อง
เด็กทั้งสองนี้ต้องได้รับความทุกข์ทรมาน
เพราะถูกแม่เลี้ยงผู้ชั่วร้ายกดขี่ข่มเหงและเฆี่ยนตีอยู่เสมอ
ในที่สุดทั้งสองคนพี่น้องก็ตัดสินใจว่าจะหนีไปจากบ้าน "มาเถอะน้อง" พี่ชายพูด "เราจะออกไปแสวงหาโชคลาภในโลกด้วยกัน แม้แต่สุนัขในบ้านนี้ยังได้รับการเลี้ยงดูดีกว่าเราเสียอีก บางครั้งมันยังได้กินเศษเนื้ออร่อย ๆ ส่วนเราได้กินแต่ขนมปังแข็ง ๆ" ทั้งสองคนจึงชวนกันออกจากบ้าน และเดินผ่านทุ่งนาและเนินเขาไปตลอดวัน เมื่อฝนตกเปียกสองพี่น้อง น้องสาวก็พูดกับพี่ชายว่า "ฟ้าสวรรค์และหัวใจเรากำลังร้องไห้ด้วยกัน" ต่อมาไม่ช้าทั้งสองคนพี่น้องได้เดินไปถึงป่าใหญ่แห่งหนึ่ง เด็กทั้งสองนั้นเข้าไปนอนค้างอยู่ในโพรงไม้แห่งหนึ่ง ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นสองพี่น้องก็ตื่นนอน เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสูงในท้องฟ้า แสงแดดส่องลอดใบไม้สีเขียวที่อยู่เบื้องบนศรีษะ "พี่หิวน้ำเหลือเกิน น้อง" พี่ชายพูด "ดูเหมือนพี่จะได้ยินเสียงลำธารไหลอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง เราไปหาลำธารนี้เถอะ" แม่เลี้ยงผู้ชั่วร้ายของเด็กทั้งสองเป็นแม่มด นางทราบว่าเด็กทั้งสองได้หนีไปที่ป่าใหญ่นี้ จึงแอบตามไปอย่างเวียบ ๆ นางได้สาปน้ำในลำธารทุกสายที่ไหลผ่านใต้ต้นไม้ ในไม่ช้าเด็กทั้งสองก็พากันเดินไปถึงลำธารสายหนึ่ง และพี่ชายก้มลงจะเอามือวักน้ำดื่มเพื่อระงับความกระหาย แต่น้องสาวได้ยินเสียงน้ำไหลเหมือนเสียงคนพูดว่า "ใครดื่มน้ำในลำธารนี้จะต้องกลายเป็นเสือ" "พี่จ๋า อย่าดื่มน้ำในลำธารนี้เลยนะจ๊ะ เดี๋ยวพี่จะกลายเป็นเสือที่มีเขี้ยวน่ากลัว" แม้ว่าพี่ชายจะรู้สึกกระหายน้ำมาก เขาก็ไม่ยอมดื่มน้ำนั้น อีกสักครู่เด็กทั้งสองก็เดินไปถึงลำธารอีกแห่งหนึ่ง คราวนี้พี่ชายคุกเข่าลงจะดื่มน้ำในลำธาร น้องสาวของเขาได้ยินเสียงพูดว่า "ใครดื่มน้ำในลำธารนี้จะต้องกลายเป็นหมาป่า" อย่าดื่มน้ำในลำธารนี้เลยจ้ะพี่" น้องสาววิงวอน "ถ้าพี่ดื่มน้ำนี้ พี่จะกลายเป็นหมาป่าสีเทาที่ดุร้าย" พี่ชายไม่ดื่มน้ำในลำธารนั้นแต่เขาพูดว่า "พี่ต้องดื่มน้ำในลำธารอีกสายหนึ่งที่เราเดินไปถึง ไม่ว่าน้องจะพูดว่าอย่างไรพี่ก็ต้องดื่ม พี่กระหายน้ำจนคอแห้งผาก เห็นจะทนไม่ไหวถ้าไม่ได้ดื่มน้ำ" |
เมื่อสองพี่น้องเดินไปถึงลำธารสายที่สาม
น้องสาวก็ได้ยินเสียงลำธารนั้นร้องเป็นเพลง
ขณะที่ไหลผ่านกรวดทรายที่ส่องแสงเป็นประกาย "ใครดื่มน้ำในลำธารนี้จะต้องกลายเป็นกวาง" "อย่าดื่มน้ำในลำธารนี้เลยนะจ๊ะ ถ้าพี่ดื่มพี่ก็จะต้องกลายเป็นกวางที่มีฝีเท้าเร็ว" |
|
แต่พี่ชายของเด็กหญิงได้จิบน้ำใสสะอาดนั้นแล้ว
พอน้ำหยดแรกแตะริมฝีปากของเขา
เด็กชายก็กลายร่างเป็นกวางน้อย
มีดวงตาอ่อนโยน
ขนเป็นจุดสีขาวและมีเขาเล็ก ๆ
แล้วน้องสาวก็ร้องไห้
สงสารพี่ชาย
และกวางน้อยก็ร้องไห้ด้วย "น้องจะไม่ละทิ้งพี่" เด็กหญิงพูดอย่างเศร้าสลด แล้วทั้งสองพี่น้องก็เดินเคียงข้างกันเข้าไปในป่าลึก ในที่โล่งแจ้งแห่งหนึ่งทั้งสองได้พบกระท่อมว่างหลังหนึ่ง และได้ใช้กระท่อมนี้เป็นที่อาศัย ทั้งสองหาใบไม้อ่อน ๆ และหญ้ามอสมาปูเป็นที่นอน และกินลูกแบรี่และลูกนัดในป่าเป็นอาหาร ภายหลังที่สองพี่น้องดำเนินชีวิตเช่นนี้ได้ชั่วระยะหนึ่ง เจ้าชายผู้ครองดินแดนแถบนั้นได้ออกไปเที่ยวล่าสัตว์ในป่า เสียงเป่าเขาสัตว์ เสียงสุนัขเห่าและเสียงนักล่าสัตว์ร้องตะโกนดังก้องไปทั้งราวป่า และเมื่อกวางน้อยได้ยินเสียงพวกนักล่าสัตว์ ก็อยากจะออกไปดูการล่าสัตว์นั้นด้วย "ขอให้พี่ออกไปดูเขาล่าสัตว์เถอะน้อง" กวางน้อยวิงวอน "พี่รู้สึกตื่นเต้นเหลือเกินเมื่อได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์" "ถ้าพี่อยากไปก็ตามใจ" น้องสาวตกลงในที่สุด "แต่พี่ต้องกลับมาหาน้องในเวลาเย็น พี่ต้องเคาะประตูกระท่อมของเราและพูดว่า "เปิดประตูให้พี่หน่อยซิน้อง" ดังนั้นกวางน้อยก็กระโดดโลดเต้นด้วยความชื่นชมยินดี และวิ่งเข้าไปในป่าโดยเร็ว เจ้าชายและพวกนักล่าสัตว์เห็นกวางนั้นก็ไล่ตามแต่พวกเหล่านั้นไปสามารถจับมันได้เพราะมันวิ่งเร็วมาก พอพลบค่ำกวางน้อยก็กลับไปหาน้องสาว "เปิดประตูให้พี่หน่อยซิน้อง" มันพูดขณะที่เคาะประตูกระท่อม วันรุ่งขึ้นเจ้าชายได้ออกล่าสัตว์อีกเสียงเป่าเขาสัตว์ทำให้กวางน้อยรู้สึกตื่นเต้นอีก และน้องสาวก็เปิดประตูให้พี่ชายอีกครั้งหนึ่ง และมันได้วิ่งไปอย่างดีอกดีใจ เจ้าชายและพวกนักล่าสัตว์ได้ตามกวางนั้นอีก แต่จับมันไม่ได้เพราะมันมีฝีเท้าเร็ว ในที่สุดนักล่าสัตว์คนหนึ่งก็ยิงธนูถูกตีนกวางนั้นเป็นบาดแผลมันจึงเดินโขยกเขยกกลับบ้านในตอนเย็น นักล่าสัตว์ผู้นี้อยากจะทราบว่ากวางนั้นมาจากไหน จึงแอบเดินตามกวางไปในป่า เขาเห็นมันเดินเข้าไปใกล้กระท่อมหลังหนึ่งและได้ยินเสียงมันพูดว่า "เปิดประตูให้พี่น้อยซิน้อง" แล้วชายนั้นก็กลับมาทูลเจ้าชายให้ทรงทราบถึงสิ่งที่เขาได้เห็นนั้น เมื่อน้องสาวเห็นกวางน้อยได้รับบาดเจ็บก็ตกใจกลัว แต่พอรุ่งเช้าแผลก็หาย วันนี้เป็นวันที่เจ้าชายออกล่าสัตว์ครั้งที่สามและกวางน้อยก็ร้องอีกเมื่อได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์ "ขอให้พี่ออกไปในป่าเถอะน้อง เมื่อพี่ได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์ พี่รู้สึกอยากกระโดดโลดเต้น" น้องสาวก็ต้องยอมให้พี่ชายออกไปทั้ง ๆ ที่นางไม่เต็มใจ และกวางน้อยได้วิ่งไปในป่า เมื่อเจ้าชายเห็นกวางนั้นอีก ก็มีรับสั่งให้พวกนักล่าสัตว์ไล่ตามกวางนั้นจนพลบค่ำ แต่ไม่ให้ใครทำร้ายมันบาดเจ็บ เจ้าชายทรงตั้งพระทัยว่า จะต้องออกไปดูให้ทราบว่าใครอยู่ที่กระท่อมในป่าท่ามกลางหมู่ไม้ พอพระอาทิตย์ตก เจ้าชายก็ตรัสกับนักล่าสัตว์คนที่ทูลเจ้าชายให้ทรงทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อน " เจ้าพาเราไปที่กระท่อมนั้นซิ" เมื่อเจ้าชายเสด็จไปถึงกระท่อม ก็ทรงเคาะประตูและเรียกว่า "เปิดประตูให้พี่น้อยซิน้อง" ประตูได้เผยออก และหญิงสาวยืนอยู่ที่ธรณีประตู นางมีรูปโฉมงดงามที่สุดทึ่เจ้าชายได้เคยเห็น นางตกใจกลัวเมื่อเห็นชายหนุ่มสวมมงกุฏทองคำยืนอยู่ แต่เจ้าชายทรงยิ้มกับหญิงสาวและตรัสขอร้องให้นางไปเป็นชายาของพระองค์ นางก็ยินยอมด้วยความเต็มใจ "แต่หม่อมฉันต้องเอากวางน้อยไปด้วย" หญิงสาวพูด "เพราะหม่อมฉันทิ้งกวางนี้ไปไม่ได้" ทันใดนั้นกวางน้อยก็วิ่งมาที่กระท่อม และหญิงสาวได้บอกมันว่ามีอะไรเกิดขึ้น แล้วนางได้เอาเชือกไหมมาผูกคอกวางและจูงมันไปที่วังของเจ้าชาย น้องสาวก็ได้เป็นเจ้าหญิงและอยู่กับเจ้าชายด้วยความผาสุก และเลี้ยงดูกวางน้อยอย่างดี มันวิ่งเล่นในสนามหญ้าสีเขียวสดในสวนของพระราชวัง |